“แบตเสื่อม” วิธีแก้แบตเสื่อม แบตหมดเร็วให้ใช้ได้นานขึ้น!!
|“แบตเสื่อม” “วิธีแก้แบตเสื่อม แบตหมดเร็วให้ใช้ได้นานขึ้น!!”
แบตเตอรี่นับว่าเป็นอุปกรณ์ให้พลังงานไฟฟ้าแก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น มือถือสมาร์ทโฟนระบบ Android ทุกรุ่น , มือถือค่าย Apple IPOD IPAD IPHONE เป็นต้น มันคือ อุปกรณ์ให้พลังงานที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน แต่ปัญหาหนึ่งที่มักจะพบเจอก็คือ “แบตเตอรี่เสื่อมภาพการใช้งาน” เรียกสั้นๆว่า “แบตเสื่อม”

เคยสงสัยหรือไม่ ทำไมแบตถึงเสื่อมอย่างรวดเร็ว
- แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กักเก็บประจุไฟฟ้าเอาไว้ที่ เซลพลังงานไฟฟ้าเคมี เมื่อใช้ไปนานๆ ของเหลวที่อยู่ในแบตเตอรี่ก็จะเสื่อมสภาพ ดังนั้นอุปกรณ์ทุกรุ่น ไม่ว่ายี่ห้อไหนเมื่อซื้อมาใช้ก็หนีไม่พ้นกับ อายุการใช้งาน โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี
- ชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งเอาไว้ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว เพราะว่าวิธีใช้งานส่วนใหญ่ของคนที่ใช้อุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่เป็นพลังงานนั้น ไม่ทราบถึงการใช้งานที่ถูกวิธี ซึ่งไม่ควรมองข้าม และยิ่งจะต้องรีบแก้ไขไม่เช่นนั้นอาจจะนำไปสู่ถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เช่น การระเบิดของแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ
- ทิ้งเอาไว้สถานที่ที่ร้อนจัด อย่างเช่น ไว้ในรถยนต์ขณะที่จอดรถยนต์ตากแดด อาจจะลืมเอาไว้หรือใช้โทรศัพท์มือถือแทน GPS นำทาง เป็นสาเหตุที่จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เช่นกันเพราะว่า แบตเตอรี่เมื่อมีการใช้ไฟฟ้าเกิดขึ้นจะทำให้เกิดความร้อนขึ้นมาที่ตัวของแบตเตอรี่แล้วจะเกิดการถ่ายเทความร้อนออกมาจากตัวเคสของมือถือ แต่ว่าถ้าเอาไว้ในสถานที่ที่มีความร้อนมากกว่าที่แบตเตอรี่ร้อน ในทางตรงกันข้าม ความร้อนจากภายนอกก็จะถูกดูดเข้าไปในโทรศัพท์มือถือ ทำให้แบตเตอรี่ร้อมมากกว่าเดิมของเหลวภายในก็เสื่อมสภาพเร็วขึ้น อาจถึงขั้นที่ระเบิดได้
- แบตเตอรี่โดนน้ำ โดยปกติแล้วคงไม่มีใครเอาแบตเตอรี่ไปโยนลงน้ำโดยตรงแต่ว่าเกิดจากความไม่ตั้งใจดันเผลอหรือความไม่ระวังของการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่ เช่น โทรศัพท์มือถือหล่นน้ำ ซึ่งช่องว่างของโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่โดยรอบ พร้อมที่จะรองรับการไหลของของเหลวที่เข้ามาจนถึงวงจรไฟฟ้า น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าชนิดหนึ่งซึ่งไม่แปลกที่จะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรจากแบตเตอรี่ ทำให้เกิดความร้อนจนทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพในที่สุด
- หากพูดถึงมือถือสมาร์ทโฟนแล้วละก็ การเปิดแอพพลิเคชั่นทิ้งเอาไว้โดยที่ไม่ได้ปิด ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะในปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นที่หลอกล่อให้โหลดด้วยคำว่า ฟรี อยู่อย่างมากมาย มีทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็น อย่างเช่น แอพพลิเคชั่นธนาคาร แอพพลิเคชั่นภาครัฐ เกมมือถือ ต่างๆ เมื่อเปิดโปรแกรมพวกนี้ทิ้งเอาไว้แล้วละก็มันมีการใช้ทรัพยากรของมือถือสูงทำให้เกิดการกินไฟจากแบตเตอรี่อย่างรวดเร็วเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วและจำเป็นต้องชาร์จบ่อยขึ้น ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เช่นเดียวกัน
- การเปิด service ของมือถือที่ไม่จำเป็นทิ้งเอาไว้ก็เป็นอีกสาเหตุทำให้แบตเตอรี่หมดไว รู้หรือไม่ว่า Service ก็เป็นแอพพลิเคชั่นตัวหนึ่งเหมือนกับแอพพลิเคชั่นทั่วไป แต่ว่าไม่มีหน้าตาของโปรแกรมให้เราโต้ตอบได้เท่านั้นเอง แต่ว่ามันก็กินทรัพยากรของโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเหมือนกัน
- มีความรู้ที่ผิดๆ อย่างเช่น การติดตั้งโปรแกรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของมือถือสมาร์ทโฟน แต่หารู้ไม่ว่าบางครั้งอาจจะไปเจอแอพพลิเคชั่นที่หลอกให้เราติดตั้งเพื่อขายโฆษณาและเปิด service บางอย่างเพื่อขโมยข้อมูลเราอยู่ก็เป็นได้แล้วที่สำคัญการถูกเปิด serviceก็ทำให้เปลื้องแบตเตอรี่อย่างไม่รู้ตัวนั่นเอง
รู้ได้อย่างไรว่าแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน หรือ เสื่อมสภาพ
- ใช้วิธีการสังเกต การสังเกตเป็นพื้นฐานของการใช้ร่างกายที่ง่ายที่สุดเพื่อที่จะตรวจสอบจุดผิดพลาดของแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็น ตา หู จมูก สัมผัส เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น การใช้สายตาเพื่อดูว่ามีสิ่งผิดปกติต่อ รูปร่าง ลักษณะภายนอกของแบตเตอรี่หรือไม่ เช่น อาการบวม อาการของเหลวไหลเยิ้มออกมา การใช้วิธีสัมผัสว่าร้อนเกินไปหรือไม่ การใช้วิธีการดมกลิ่นมีกลิ่นผิดปกติไปจากเดิม เช่น กลิ่นไหม้ เป็นต้น แต่นอกจากจะใช้วิธีการที่กล่าวมาข้างต้นแล้วก็ตามยังมีวิธีสังเกตอื่นๆอีก เช่นดังต่อไปนี้
- การใช้โปรแกรมดูอาการที่ทำให้รู้ว่าเกิดอาการแบตเตอรี่เสริม
- เปอร์เซ็นลดลงอย่างรวดเร็วทั้งๆที่ปิดหน้าจอทิ้งเอาไว้
- ชาร์จเต็มอย่างรวดเร็วอย่างไม่ทราบสาเหตุ
- การใช้โปรแกรมดูอาการที่ทำให้รู้ว่าเกิดอาการแบตเตอรี่เสริม
- เครื่องดับอย่างไม่รู้สาเหตุ เช่น ใช้มือถืออยู่ดีดี หรือกำลังคุยโทรศัพท์อยู่เกิดอาการปิดเครื่องไปดื้อๆ ซะอย่างงั้น เป็นต้น
- ใช้วิธีการตรวจสอบด้วยแอพพลิเคชั่น ในการจะใช้วิธีนี้สามารถที่จะค้นหาวิธีดูสถานะของแบตเตอรี่ได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ แต่ให้ใช้โปรแกรมที่ติดมาพร้อมกับระบบอยู่แล้วอย่างเช่น *#*#4636#*#* แล้วไปที่เมนู Batterry information เพื่อดูสถานะต่างแต่วิธีอาจจะมีเฉพาะรุ่นที่ติดตั้ง เป็นต้น
- ตรวจเช็คว่าใช้เครื่องมากี่ปีแล้ว หลายๆคนอาจจะหลงลืมไปว่าใช้มานานกันเท่าไรแบบว่า อาจจะขัดสนในเรื่องเงินทองไปบ้าง ก็หาวิธีไปซื้ออุปกรณ์ที่เป็นมือสองมาใช้งานซึ่งทำให้ไม่ทราบถึงอายุการใช้งานที่แท้จริง ดังนั้นควรจะตรวจสอบเสียก่อนว่าอายุของอุปกรณ์นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงแบตเตอรี่แล้วหรือยัง
วิธีที่จะป้องกันแก้ไข ดูแลรักษาไม่ให้แบตเสื่อมและแบตหมดเร็วทำอย่างไร
- ศึกษาวิธีชาร์จแบตเตอรี่ ให้ถูกวิธี ตัวอย่างง่ายๆ เช่น
- ควรจะชาร์จแบตเตอรี่ที่มากกว่า 35-40% เพราะมันจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
- ไม่ควรจะใช้แบตเตอรี่จนหมดเหลือ 0% แล้วมาชาร์จมันจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วมาก
- หากไม่ใช้มือถือเป็นเวลานานๆ ก็ให้ชาร์จแบตเตอรี่เอาไว้ที่มากกว่า 40% แล้วปิดเครื่องซะเป็นการประหยัดแบตเตอรี่เพื่อใช้ในเวลาที่จำเป็น
- พยายามอย่าอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่โดนกระแทก เพราะจะทำให้สภาพของอุปกรณ์นั้น บีบรัดแบตเตอรี่มันเกินไป เพราะว่าโดยปกติแล้วเมื่อแบตเตอรี่มีการชาร์จเก็บประจุจะมีการคายตัว อาการจะบวมขึ้นทำให้บีบรัด อาจจะเกิดระเบิดก็ได้
- ป้องกันไม่ให้โดนน้ำ หรือ ความร้อนมากเกินไป ในสมัยนี้มีการป้องกันที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ซิลิโคนกันน้ำ การใช้นวัตกรรมที่ชื่อ Ultrafine Coating ในการเคลือบเพื่อกันน้ำ กันฝุ่นเข้าเครื่องก็สามารถทำได้แล้ว หรือว่า ถ้าใครมีงบที่เหลือจ่ายก็เลือกใช้โทรศัพท์มือถือที่กันน้ำ กันความร้อนไปเลยทีเดียว จบ
- หาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้แบตเตอรี่ การเรียนรู้ถือเป็นเรื่องสำคัญในยุคนี้ หากไม่รู้อะไรก็ควรจะศึกษาเพิ่มเติมก่อนจะนำไปใช้งาน