6เคล็ดลับ ลบไฟล์ขยะอย่างเซียน ล้างขยะเพิ่มหน่วยความจำ คอมเร็วขึ้น ทำตามเลยทีละขั้นตอน!!
|หากท่านเป็นสาวกของ Microsoft Windows แล้วละก็ ท่านย่อมต้องเคยพบกับปัญหาโลกแตกที่ว่า “แรกๆก็เร็ว นานๆไปก็อืด” อย่างแน่นอน จริงๆแล้วก็มาจากหลายสาเหตุ หนึ่งในตัวการก็คือขยะนี่แหละครับ ทั้งขยะที่เราสร้างขึ้นเองและขยะที่ระบบปฏิบัติการสร้างให้เรา วันนี้ขอพาทุกท่านไปกำจัดขยะบน Windows อย่างเซียนกันดีกว่าครับ
1.Cache files คือ ข้อมูลเสมือนที่ Windowsสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้การทำงานของเรารวดเร็วยิ่งขึ้น แต่เมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบบดันไม่ยอมลบมันออกไปให้ด้วย ทำให้เกิดขยะเพิ่มขึ้นในคอมพิวเตอร์ของเรา บางเครื่องคงค้างในระบบกว่า 10GB ก็มี ครับ ฉะนั้นเรามากำจัดขยะประเภทนี้ด้วย Disk Cleanup กันครับ
เริ่มกันที่เปิด My Computer > คลิกขวาที่ไดรฟ์ที่ต้องการลบขยะ > Properties > Disk Cleanup
ระบบจะคำนวณค่าให้ อันนี้ต้องรอสักพักครับ
จากนั้นจะแสดงหน้าจอให้เราเลือกได้ว่าต้องการลบอะไรออกไปบ้าง ถ้าไม่มีอะไรที่สำคัญจริงๆแนะนำว่าเลือกให้หมดไปเลยครับ จากภาพจะเห็นว่าขยะที่จะลบมีมากถึง 15.6GB เลยทีเดียว
เมื่อสั่งลบขยะก็รอไปพักใหญ่ๆอาจใช้เวลาถึง45นาที(ขึ้นกับปริมาณขยะ) เพียงเท่านี้เครื่องของคุณก็จะโล่งโปร่งไปอีกเยอะเลยครับ
2. แคชอัพเดท Windows 10
เนื่องด้วย Windows 10 เป็น ระบบปฏิบัติการที่ทางไมโครซอฟหมายมั่นปั้นมือให้เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดในท้องตลาด ดังนั้นทางไมโครซอฟจึงขยันออกอัพเดทของ Windows 10เพียบ แต่มันดันทิ้งข้อเสียเอาไว้ให้ด้วยคือ ระบบไม่ยอมลบอัพเดทที่ใช้งานไปแล้วออกไป ทำให้ตัว Windows 10 ของคุณโตวันโตคืนและแน่นอน ช้ามากขึ้นด้วย ว่าแล้วก็กำจัดมันทิ้งซะ
เริ่มที่เปิดระบบ Command Prompt ในโหมด Administrator ตามภาพ
เมื่อเข้ามาแล้วให้พิมพ์ “net stop wuauserv” แล้ว enter เพื่อปิดระบบอัพเดท
ต่อจากนั้นไปที่ C:\Windows\SoftwareDistribution\Download แล้วลบไฟล์ทั้งหมด
กลับไปที่ Command Prompt อีกครั้งแล้วใช้คำสั่ง “net start wuauserv” ให้ให้ระบบอัพเดทกลับมาทำงานอีกครั้ง
3.แคชบน Windows Store
หลังจาก Windows 8 เป็นต้นมา มีการปรับให้โปรแกรมต่างๆกลายเป็นแอพลิเคชั่นมากขึ้น สามารถโหลดใช้งานผ่าน Windows Store ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องมีแคชไฟล์แยกต่างหากจาก Windows ด้วย จึงจำเป็นทีจะต้องลบทิ้งออกบ้าง
ทำได้โดยกด Windows + R แล้วพิมพ์ WSReset.exe เพื่อเป็นการล้างข้อมูล Windows Store ส่งผลให้การทำงานดีขึ้น
4. แคชไฟล์ System Restore
System Restore มีความสำคัญกับระบบปฏิบัติการ Windwos เป็นอย่างมากเมื่อเกินปัญหา Windows เข้าไม่ได้ เดี้ยง มันช่วยให้ไม่ต้องมานั่งลงโปรแกรมใหม่ แต่ยิ่งเก็บไว้นานขนาดก็ยิ่งใหญ่ตามขึ้นไปด้วย ดังนั้น ลบมันทิ้งไปบ้างเพื่อพื้นที่ใช้งาน
เริ่มที่ คลิกขวาที่ Computer เลือก Properties
เข้าไปที่ System Protection > Configure…
คุณสามารถตั้งค่าให้ปิดระบบ System Protection ไปเลยก็ได้ หรือจะปรับขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บก็ได้เช่นกันครับ
5.แคชไฟล์บนเว็บเบราเซอร์
ปกติแล้วเว็บเบราเซอร์ทุกค่ายจะมีหลักในการทำงานที่เหมือนกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการสร้างแคชไฟล์เอาไว้เพื่อให้การเปิดเว็บไซต์ต่างๆทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่เป็นที่น่าเศร้าเพราะแคชไฟล์ที่สร้างขึ้นมาเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ถูกลบออกไปหลังจากที่ปิดเว็บเบราเซอร์ไปแล้ว วิธีการลบมีดังต่อไปนี้
สำหรับ Chrome
ไปที่ เมนู(มุมบนขวามือ) > เครื่องมือเพิ่มเติม > ล้างข้อมูลการท่องเว็บ จากนั้นทำตามขั้นตอนในภาพ
สำหรับ Firefox
คลิกที่ เปิดเมนู(มุมบนขวามือ) > ตัวเลือก > ความเป็นส่วนตัว > ล้างประวัติท่องเว็บเมื่อเร็ว ๆ นี้ของคุณ > เลือกล้างข้อมูลได้ตามที่เราต้องการ แล้วก็กดที่ ล้างทันที
สำหรับ Internet Explorer
หากท่านใดยังใช้เว็บเบราเซอร์รุ่นดั่งเดิมอยู่ก็ให้ไปที่ เมนู(มุมบนขวามือ) > Internet Options > Browsing History เลือก Deleteหัวข้อที่ต้องการ
6. แคชของ DNS
เมื่อเราเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแล้ว DNS Cache จะบันทึกข้อมูลการเชื่อมต่อเอาไว้เพื่อการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อคุณกลับมาเปิดข้อมูลนั้นซ้ำจากเว็บไซต์ แต่ถ้าหากเว็บไซต์นั้นมีการเปลี่ยนแปลง IP Address ข้อมูลที่บันทึกเอาไว้จะกลายเป็นขยะไปในทันที เราสามารถกำจัดทิ้งได้โดย เปิด Command Prompt ขึ้นมา (กด Windows + R แล้วพิมพ์ cmd) ตามด้วยคำสั่ง ipconfig /flushdns แล้ว Enter เพียงเท่านี้ระบบจะจัดการข้อมูลที่ไม่ได้ใช้ออกไปในทันทีครับ
และทั้งหมดนี้คือวิธีการ “ลบไฟล์ขยะบน Windowsอย่างเซียน” หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับทุกท่านนะครับ