อัปเดทข่าวมือถือ ข่าวไอที โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ รุ่นใหม่ล่าสุด ดาวน์โหลดแอพมือถือ อัปเดทราคาสมาร์ทโฟน 2016 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงกับ droidsir.net เว็บไซต์สำหรับคนไอที
ติดต่อลงโฆษณาได้ที่แฟนเพจ droidsir.net
DroidSir.net ข่าวมือถือ ข่าวไอที ตลอด 24 ชั่วโมง

6เคล็ดลับ ลบไฟล์ขยะอย่างเซียน ล้างขยะเพิ่มหน่วยความจำ คอมเร็วขึ้น ทำตามเลยทีละขั้นตอน!!

หากท่านเป็นสาวกของ Microsoft Windows แล้วละก็ ท่านย่อมต้องเคยพบกับปัญหาโลกแตกที่ว่า “แรกๆก็เร็ว นานๆไปก็อืด” อย่างแน่นอน  จริงๆแล้วก็มาจากหลายสาเหตุ หนึ่งในตัวการก็คือขยะนี่แหละครับ ทั้งขยะที่เราสร้างขึ้นเองและขยะที่ระบบปฏิบัติการสร้างให้เรา  วันนี้ขอพาทุกท่านไปกำจัดขยะบน Windows อย่างเซียนกันดีกว่าครับ

1.Cache files คือ ข้อมูลเสมือนที่ Windowsสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้การทำงานของเรารวดเร็วยิ่งขึ้น แต่เมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบบดันไม่ยอมลบมันออกไปให้ด้วย ทำให้เกิดขยะเพิ่มขึ้นในคอมพิวเตอร์ของเรา บางเครื่องคงค้างในระบบกว่า 10GB ก็มี ครับ  ฉะนั้นเรามากำจัดขยะประเภทนี้ด้วย  Disk Cleanup กันครับ

เริ่มกันที่เปิด My Computer  >  คลิกขวาที่ไดรฟ์ที่ต้องการลบขยะ  >  Properties  >  Disk Cleanup

ระบบจะคำนวณค่าให้ อันนี้ต้องรอสักพักครับ

จากนั้นจะแสดงหน้าจอให้เราเลือกได้ว่าต้องการลบอะไรออกไปบ้าง ถ้าไม่มีอะไรที่สำคัญจริงๆแนะนำว่าเลือกให้หมดไปเลยครับ จากภาพจะเห็นว่าขยะที่จะลบมีมากถึง 15.6GB เลยทีเดียว

เมื่อสั่งลบขยะก็รอไปพักใหญ่ๆอาจใช้เวลาถึง45นาที(ขึ้นกับปริมาณขยะ)   เพียงเท่านี้เครื่องของคุณก็จะโล่งโปร่งไปอีกเยอะเลยครับ

2. แคชอัพเดท Windows 10

เนื่องด้วย Windows 10 เป็น ระบบปฏิบัติการที่ทางไมโครซอฟหมายมั่นปั้นมือให้เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดในท้องตลาด ดังนั้นทางไมโครซอฟจึงขยันออกอัพเดทของ Windows 10เพียบ แต่มันดันทิ้งข้อเสียเอาไว้ให้ด้วยคือ ระบบไม่ยอมลบอัพเดทที่ใช้งานไปแล้วออกไป ทำให้ตัว Windows 10 ของคุณโตวันโตคืนและแน่นอน ช้ามากขึ้นด้วย ว่าแล้วก็กำจัดมันทิ้งซะ

บทความดีๆที่ห้ามพลาด  วิธียกเลิกข้อความ ais, ทรู, ดีแทค เบอร์เดียว ง่ายมาก ทำเองที่บ้านได้!

เริ่มที่เปิดระบบ Command Prompt ในโหมด Administrator ตามภาพ

เมื่อเข้ามาแล้วให้พิมพ์ “net stop wuauserv” แล้ว enter เพื่อปิดระบบอัพเดท

ต่อจากนั้นไปที่ C:\Windows\SoftwareDistribution\Download แล้วลบไฟล์ทั้งหมด

กลับไปที่ Command Prompt อีกครั้งแล้วใช้คำสั่ง “net start wuauserv” ให้ให้ระบบอัพเดทกลับมาทำงานอีกครั้ง

3.แคชบน Windows Store

หลังจาก Windows 8 เป็นต้นมา มีการปรับให้โปรแกรมต่างๆกลายเป็นแอพลิเคชั่นมากขึ้น สามารถโหลดใช้งานผ่าน Windows Store ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องมีแคชไฟล์แยกต่างหากจาก Windows ด้วย จึงจำเป็นทีจะต้องลบทิ้งออกบ้าง

ทำได้โดยกด Windows + R แล้วพิมพ์ WSReset.exe เพื่อเป็นการล้างข้อมูล Windows Store ส่งผลให้การทำงานดีขึ้น

บทความดีๆที่ห้ามพลาด  วิธีแฮกไลน์ แฮกเฟสในโทรศัพท์ แอบอ่านมือถือแฟนได้ตลอดเวลา!!

4. แคชไฟล์ System Restore

System Restore มีความสำคัญกับระบบปฏิบัติการ Windwos เป็นอย่างมากเมื่อเกินปัญหา Windows เข้าไม่ได้ เดี้ยง มันช่วยให้ไม่ต้องมานั่งลงโปรแกรมใหม่ แต่ยิ่งเก็บไว้นานขนาดก็ยิ่งใหญ่ตามขึ้นไปด้วย ดังนั้น ลบมันทิ้งไปบ้างเพื่อพื้นที่ใช้งาน

เริ่มที่ คลิกขวาที่ Computer เลือก Properties

เข้าไปที่ System Protection > Configure…

คุณสามารถตั้งค่าให้ปิดระบบ System Protection ไปเลยก็ได้ หรือจะปรับขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บก็ได้เช่นกันครับ

5.แคชไฟล์บนเว็บเบราเซอร์

ปกติแล้วเว็บเบราเซอร์ทุกค่ายจะมีหลักในการทำงานที่เหมือนกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการสร้างแคชไฟล์เอาไว้เพื่อให้การเปิดเว็บไซต์ต่างๆทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่เป็นที่น่าเศร้าเพราะแคชไฟล์ที่สร้างขึ้นมาเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ถูกลบออกไปหลังจากที่ปิดเว็บเบราเซอร์ไปแล้ว วิธีการลบมีดังต่อไปนี้

สำหรับ Chrome

ไปที่ เมนู(มุมบนขวามือ) > เครื่องมือเพิ่มเติม > ล้างข้อมูลการท่องเว็บ จากนั้นทำตามขั้นตอนในภาพ

สำหรับ Firefox

คลิกที่ เปิดเมนู(มุมบนขวามือ) > ตัวเลือก > ความเป็นส่วนตัว > ล้างประวัติท่องเว็บเมื่อเร็ว ๆ นี้ของคุณ  > เลือกล้างข้อมูลได้ตามที่เราต้องการ  แล้วก็กดที่ ล้างทันที

บทความดีๆที่ห้ามพลาด  เล่น Line ผ่านเว็บ Browser บน PC อย่างง่ายๆ

สำหรับ Internet Explorer

หากท่านใดยังใช้เว็บเบราเซอร์รุ่นดั่งเดิมอยู่ก็ให้ไปที่ เมนู(มุมบนขวามือ) > Internet Options > Browsing History เลือก Deleteหัวข้อที่ต้องการ

6. แคชของ DNS

เมื่อเราเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแล้ว DNS Cache จะบันทึกข้อมูลการเชื่อมต่อเอาไว้เพื่อการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อคุณกลับมาเปิดข้อมูลนั้นซ้ำจากเว็บไซต์ แต่ถ้าหากเว็บไซต์นั้นมีการเปลี่ยนแปลง IP Address ข้อมูลที่บันทึกเอาไว้จะกลายเป็นขยะไปในทันที เราสามารถกำจัดทิ้งได้โดย เปิด Command Prompt ขึ้นมา (กด Windows + R แล้วพิมพ์ cmd) ตามด้วยคำสั่ง ipconfig /flushdns แล้ว Enter เพียงเท่านี้ระบบจะจัดการข้อมูลที่ไม่ได้ใช้ออกไปในทันทีครับ

และทั้งหมดนี้คือวิธีการ “ลบไฟล์ขยะบน Windowsอย่างเซียน” หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับทุกท่านนะครับ

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Translate »